ชีวิตคุณกำลังยุ่งเหยิงและยากจะจัดการให้เป็นระเบียบอยู่หรือเปล่า?
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่รู้สึกแบบนั้น เราอยากแนะนำให้ลองจัดระเบียบงานและชีวิต ผ่านการลงมือจดบันทึกในรูปแบบที่เรียกว่า Bulltet Journal หรือบูโจ
ไม่ว่าคุณจะเคยได้ยินคำนี้ผ่านหู หรือไม่เคยได้ยินมาก่อน ลองมารู้จักอีกวิธีจัดการงานและชีวิตด้วยสมุด 1 เล่มไปด้วยกัน
(รีวิวสั้นจากผู้ใช้จริง: วิธีนี้เวิร์กอยู่นะ!)
Bullet Journal (BUJO) คืออะไร?
ระบบจดบันทึกแบบ analog ที่ช่วยให้เราได้จัดระเบียบและทบทวนชีวิต ระบบนี้ทำให้เราติดตามผลอดีต จัดการปัจจุบัน และวางแผนอนาคตได้
Bulltet Journal เกิดขึ้นจากความย้อนแย้งของ Productivity
ในหนังสือเรื่อง The Bullet Journal Method Ryder Carroll ผู้เขียนที่สร้างคำศัพท์ “บูโจ” จนกลายเป็นชื่อวิธีจดโน้ตที่ทุกคนรู้จักทั่วโลกบอกว่า เขาป็นโรคสมาธิสั้น ทำให้โฟกัสแต่ละอย่างได้ยากมาก แต่การจดบันทึกช่วยให้เขาได้สังเกตชีวิตตัวเอง และจัดระเบียบมันได้ดีขึ้น เขาจึงเริ่มจดบันทึกมาตั้งแต่เด็ก และพบว่าเพื่อนที่ประสบความสำเร็จของเขาหลายคนต่างก็มีสมุดบันทึกติดตัวไว้จัดระเบียบชีวิตและความคิด ซึ่งพวกเขาต่างก็มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ได้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาเพื่อประสบความสำเร็จ
Ryder Carroll บอกว่าในปัจจุบัน การใช้ชีวิตให้เรียบง่ายเป็นเรื่องยากมาก เพราะเรามีสิ่งเร้าและตัวกระตุ้นมากมายให้ต้องตื่นตัวอยู่ตลอด พร้อมค่านิยมว่าเราต้อง Productive เสมอ แต่ความจริงก็คือ ยิ่งเราพยายาม Productive เรากลับยิ่งรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรง ไม่พอใจในตัวเองกันมากขึ้น เพราะเราสนใจแต่ผลลัพธ์ปลายทาง แต่ไม่ได้สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างแท้จริง
และนั่นจึงเป็นความมุ่งมั่นที่เขาต้องการสร้างระบบที่ยืดหยุ่นและรวดเร็ว ในการจัดระเบียบชีวิตให้เรียบง่ายและได้ผล ซึ่งก็คือระบบ Bullet Journal นั่นเอง
Bullet Journal วิธีจดแบบอนาล็อกในยุคดิจิทัล
หากถามว่าทำไมการจดบันทึกแบบบูโจต้องเป็นสมุดบันทึก? คำตอบเพียงข้อเดียวก็คือ เพื่อให้เราหยุดการเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัล ที่ซึ่งเราถูกควบคุมด้วย Notification ที่มองเห็นและมองไม่เห็นโดยไม่รู้ตัว จนสุดท้ายก็วนอยู่ในนั้นจนลืมทำสิ่งที่โฟกัสอยู่
เมื่อเราหยุดเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์สักพัก แล้วลงมือเขียนบันทึกทบทวนงานและชีวิตด้วยปากกาบนสมุด เราจะได้อยู่กับตัวเอง ควบคุมสิ่งต่างๆ ของตัวเราได้อีกครั้ง โดยไม่มีอะไรมาขัดขวางหรือทำให้เสียสมาธิ
Mental Inventory วางทุกอย่างในหัวลงกระดาษก่อนลงมือบันทึก
สิ่งแรกที่สุดก่อนจะลงมือบันทึก Bullet Journal เต็มรูปแบบ Ryder Carroll อยากให้เราหยิบกระดาษมา และคลี่ความคิดที่เยอะและยุ่งเหยิงในหัวของเราออกมาเป็นข้อๆ ก่อน
โดยมีขั้นตอนง่ายๆ 3 ข้อเท่านั้นคือ
- เขียนทุกอย่างที่เรากำลังทำอยู่ในบรรทัดแรก
- เขียนทุกอย่างที่เราควรทำตอนนี้ในบรรทัดที่สอง
- เขียนทุกอย่างที่เราอยากทำตอนนี้ไว้ในบรรทัดสุดท้าย
การทำรายการความคิดแบบนี้ช่วยให้เราถามตัวเองว่า ทำไปทำไม? งานนี้สำคัญหรือไม่? และจำเป็นไหมที่ต้องทำงานนั้น? ส่วนรายการไหนที่เราไม่สามารถตอบคำถามทั้ง 3 ข้อได้ ก็ให้ถามตัวเองต่อว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นหากเราไม่ทำ? มันจะกระทบอะไรและสร้างความเสียหายอะไรหรือไม่? และถ้ามันไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร อย่าลังเลที่จะขจัดมันออกไปจากรายการ
เพราะเป้าหมายของการทำรายการความคิดคือ จัดระเบียบชีวิตของเราให้ง่ายที่สุด ด้วยตัวเลือกที่น้อยที่สุดนั่นเอง
ส่วนประกอบของ Bullet Journal
หลังจากเคลียร์ความคิดให้เป็นระเบียบ ก็มาถึงการลงมือทำ Bullet Journal โดยก่อนอื่น มารู้จักส่วนต่างๆ ของระบบนี้กันก่อน โดย Bulltet Journal แบ่งออกได้เป็น 6 ส่วนคือ
1.Index : สารบัญเนื้อหา
สารบัญเพื่อเชื่อมทุกหน้าเข้าด้วยกัน ใช้คั่นเนื้อหาในแต่ละบูโจโดยดูที่หัวเรื่องและเลขหน้า แก้ปัญหาเวลาจดโน้ตแต่ละครั้ง แล้วหาไม่เจอว่าจดไว้ตรงไหนบ้าง หรือการจดหนึ่งเรื่อง ไว้หลายๆ หน้าสลับไปมา
2.Future Log : บันทึกวางแผนอนาคต
บันทึกงานและเหตุการณ์ในอนาคตที่อยู่นอกเหนือเดือนปัจจุบัน คือพื้นที่สำหรับจดเตือนตัวเองสั้นๆ ว่า มีตารางงานสำคัญอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้น
3.Monthly Log : บันทึกรายเดือน
บันทึกประจำเดือน ซึ่งมี 2 สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ ปฏิทินและลิสต์งานที่ต้องทำ
4.Daily Log : บันทึกประจำวัน
ส่วนที่บันทึกงาน กิจกรรม และโน้ตของเราในระหว่างวัน
5. Collections: บันทึกที่แบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น habit tracker
ส่วนรวมเรื่องที่เราสนใจไว้เป็นสัดส่วน เช่น คนที่ชอบท่องเที่ยวอาจมีบันทึกแยกเฉพาะสำหรับวางแผนการท่องเที่ยว และคนที่อยาก track นิสัยบางอย่างของตัวเองก็อาจมีบันทึกแบบ Habit Tracker เอาไว้
6. Migration Process : ระบบย้ายข้อมูล
ขั้นตอนการกรองเนื้อหาที่ไม่สำคัญออกจากสมุดบันทึกเมื่อขึ้นเดือนใหม่ เพื่อย้ายเฉพาะงานที่ยังสำคัญกับเราไปสู่เดือนถัดไป
วิธีบันทึก
สุดท้ายก็มาถึงวิธีจดบันทึก ซึ่งในภาพรวมมีด้วยกัน 4 ขั้นตอนดังนี้
1.ใส่หัวข้อที่ด้านบน (ชื่อเรื่องหรือวันเดือนปี)
2.ใส่เลขหน้า (สำหรับใส่ในสารบัญ)
3.จดงานและข้อความด้วยประโยคสั้นๆ
4.ใช้ bullet (สัญลักษณ์แยกประเภท เช่น ใส่ • สำหรับสิ่งที่เป็นงาน และใส่ – สำหรับสิ่งที่เป็นการจดโน้ต )
สำหรับใครที่ไม่เคยจดมาก่อน ให้เริ่มด้วยหน้า Index หรือสารบัญ (ที่เราจะมาทยอยใส่กันเมื่อลงมือเขียนไปเรื่อยๆ ) จากนั้นให้เขียน Future Log โดยตีตารางเพื่อจดสิ่งสำคัญในระยะ 6 เดือน ตามด้วย Monthly Log แล้วค่อยมาสู่ Daily Log หรือการจดบันทึกรายวันต่อไป ส่วน Collections นั้นสามารถเลือกใส่ลงไปในบันทึกตามความสนใจได้เลย
อ้างอิง:
- หนังสือ The Bullet Journal Method : Track Your Past, Order Your Present, Plan Your Future (By Ryder Carroll)
- https://bulletjournal.com/
- https://www.asianefficiency.com/productivity/bullet-journal-method/