SCAMPER เทคนิคคิดนอกกรอบ สร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่าง!
- Got SkillLane
- 10 ก.ย.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 12 ก.ย.
คุณเคยรู้สึกไหมคะว่าบางครั้งเวลาที่ต้องสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ หรือคิดโปรเจกต์อะไรสักอย่าง เรากลับรู้สึก “ตัน” อยู่ในกรอบเดิม ๆ หาความคิดแปลกใหม่ไม่เจอ? ความจริงแล้วการคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจเพียงอย่างเดียว แต่มีเครื่องมือและเทคนิคที่ช่วยให้เราคิดต่อยอดได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากทั่วโลกก็คือ SCAMPER ค่ะ
เทคนิคนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “เครื่องมือคิด” แต่ยังเป็น Framework ที่ช่วยให้เราได้ฝึกตั้งคำถามกับสิ่งที่มีอยู่ แล้วนำไปสู่การต่อยอด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือแม้กระทั่งมองหาวิธีการที่ง่ายและคุ้มค่ากว่าเดิม
SCAMPER คืออะไร?
SCAMPER เป็นเทคนิคการคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจากการตั้งคำถามหลัก ๆ 7 ข้อ โดยมุ่งเน้นให้เรามองหาวิธีใหม่ ๆ จากสิ่งที่มีอยู่เดิม เทคนิคนี้ถูกพัฒนาโดย Bob Eberle นักการศึกษาชาวอเมริกัน ซึ่งเชื่อว่าการตั้งคำถามที่ถูกต้อง จะช่วยปลดล็อกความคิดและทำให้เราเห็นทางเลือกใหม่ที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน
จุดเด่นของ SCAMPER คือความเรียบง่าย แต่ทรงพลัง เพราะแค่การตั้งคำถามก็สามารถพลิกมุมมอง และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ได้อย่างคาดไม่ถึง

7 ขั้นตอนของ SCAMPER
1. S – Substitute (แทนที่)
เริ่มจากถามตัวเองว่า "มีสิ่งใดที่สามารถแทนที่ได้บ้าง?" ซึ่งการแทนที่อาจเป็นวัตถุดิบ วัสดุ กระบวนการ หรือแม้กระทั่งตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง สามารถสร้างคุณค่าใหม่ ลดต้นทุน หรือทำให้สินค้ามีความยั่งยืนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น
- การผลิตบรรจุภัณฑ์: แทนที่พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวด้วยวัสดุย่อยสลายได้
- การตลาด: แทนการใช้ Influencer ราคาแพง อาจแทนที่ด้วย Micro Influencer ที่ราคาเข้าได้ และเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
2. C – Combine (รวมเข้าด้วยกัน)
ลองคิดดูว่า "เราสามารถรวมสิ่งใดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสิ่งใหม่ได้บ้าง?" เพราะบางครั้งการนำสองสิ่งที่แตกต่างมารวมกัน อาจทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ทำให้เรามองเห็น “คุณค่าเพิ่ม” จากการผสมผสานไอเดีย ตัวอย่างเช่น
- โทรศัพท์มือถือ + กล้องถ่ายรูป = สมาร์ตโฟนที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
- คาเฟ่ + โคเวิร์กกิ้งสเปซ = ร้านกาแฟที่เป็นทั้งพื้นที่พบปะและทำงาน
3️. A – Adapt (ปรับเปลี่ยน)
ลองปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน แล้วตั้งคำถามว่า "เราสามารถนำสิ่งที่มีอยู่มาปรับใช้กับบริบทใหม่ได้อย่างไร?" เพราะการนำสิ่งต่าง ๆ มาปรับเปลี่ยน ช่วยให้เราเรียนรู้จากความสำเร็จของที่อื่น แล้วนำมาสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ได้ เช่น
- ธุรกิจขนส่งเอกชนปรับระบบ “Tracking” มาจากการทำงานของสายการบินที่ตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระ
- แบรนด์แฟชั่นนำ แนวคิด Sustainability ของอุตสาหกรรมอื่นมาปรับใช้กับการออกแบบเสื้อผ้า
4. M – Modify (ดัดแปลง)
ลองสำรวจสิ่งเรามี แล้วคิดว่า "สิ่งที่มีอยู่ เอามาปรับเปลี่ยนได้ยังไงบ้าง?" เพราะนี่จะเป็นการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ก็อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความแตกต่างได้ทันที
คือการปรับเปลี่ยน เพิ่ม ลด หรือทำให้สิ่งที่มีอยู่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น
- iPhone รุ่นใหม่ ๆ มักดัดแปลงจากรุ่นก่อน โดยเพิ่มกล้อง เพิ่มฟีเจอร์การใช้งาน
- ธุรกิจร้านอาหารอาจดัดแปลงเมนูเดิมให้มีขนาดเล็กลง กลายเป็นเมนู Mini สำหรับกลุ่มลูกค้าที่อยากลองหลายเมนู
5. Put to another use (นำไปใช้ในทางอื่น)
บางครั้งสิ่งเดิม ๆ อาจมี “คุณค่าใหม่” ถ้าเราลองนำไปใช้ในบริบทที่ต่างออกไป ตัวอย่างเช่น
- โซดา ไม่ได้ใช้ดื่มอย่างเดียว แต่ยังถูกนำไปใช้ทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ได้
- Post-it Notes เกิดจากกาวที่ “ไม่ติดแน่น” ของ 3M ซึ่งตอนแรกดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่กลับถูกนำมาต่อยอดให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
6. E – Eliminate (กำจัด)
ลองถามตัวเองดูว่าสินค้าของเรา “อะไรสามารถตัดออกไปเพื่อทำให้ดีขึ้น?” เพราะการตัดสิ่งเกินจำเป็นช่วยให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ เช่น
- Google Search หน้าแรก ที่เรียบง่ายมากเพราะกำจัดองค์ประกอบไม่จำเป็นออก
- ธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำที่ตัดอาหารฟรีออก เพื่อลดค่าใช้จ่ายและทำให้ขายตั๋วราคาถูกลง
7. Reverse (กลับด้าน)
ลองคิดกลับหัวกลับหาง หรือทำตรงข้ามกับสิ่งที่เคยทำ สิ่งนี้คือการท้าทายกรอบความคิดเดิมๆ และพลิกมันให้เป็นโอกาสใหม่ เช่น
- Netflix เปลี่ยนโมเดลการเช่าวิดีโอจาก “ต้องไปที่ร้าน” → เป็น “ส่งถึงบ้านและสตรีมมิ่งออนไลน์”
- IKEA ที่ให้ลูกค้าเป็นคนประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง แทนที่จะขายแบบประกอบเสร็จ
ทำไม SCAMPER ถึงสำคัญ?
ช่วยให้เกิดมุมมองใหม่ เมื่อเจอปัญหาหรือความท้าทาย
ลดการยึดติดกับความคิดเดิม ๆ ที่อาจกลายเป็นข้อจำกัด
ทำให้เกิดนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สินค้าหรือบริการที่แตกต่าง
ใช้ได้ทั้งกับธุรกิจ การศึกษา งานออกแบบ ไปจนถึงชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ นักการตลาด ดีไซเนอร์ หรือแม้แต่นักเรียน นักศึกษา เทคนิคนี้ก็ช่วยปลดล็อกไอเดียและสร้างผลงานที่ “ไม่ซ้ำใคร” ได้จริง
📌 ถ้าคุณอยากพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์และการจัดการผลงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลองเรียนรู้เพิ่มเติมในคอร์ส ‘PRODUCTIVE MANAGERS ผู้จัดการผลงานเกินคาด’ ที่จะช่วยให้คุณต่อยอดแนวคิดและสร้างผลงานเกินความคาดหวังได้จริง






